My trip to Bangkok ไปกรุงเทพฯ



Terminal 2 the Queen's terminal
I was so impressed how nice and spacious the Queen's Terminal is! There were many sitting area to choose from. There were so many restaurants too - from traditional English foods to Japanese, Indian and Chinese! It reminded me how hungry I was and that I hadn't eaten since last night (it was then 6 o'clock in the evening) When I eventually sat and had the first bite of sushi I felt it was  divine!!! I ate and ate and felt much better for it. 
After that I had a little rest and snooze in the sitting area where I felt so relaxed and restful. My flight was smooth and it was shorter than I thought - instead of 13 hours, we landed in Bangkok after 10 hours! thanks to the wind. I did get some sleep on the plane although plane food was quite rubbish but I knew I would be well fed once I was landed so I wasn't bothered.
บินจากลอนดอนไปกรุงเทพฯ เมื่อประมาณสองอาิทตย์ที่แล้ว โดยนั่งรถโคชจากนอริชไปสนามบินฮีทโธรว์ใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมง โดยที่ลืมไปว่าตัวเองเป็นคนเมาเครื่องบิน แต่เนื่องจากกระเป๋าเดินทางหนักมาก ประมาณ26 กิโล ก็มีความรู้สึกว่าไม่อยากจะลากเอาขึ้นรถไฟและรถไฟใต้ดินไป แต่คิดผิดจริงๆ เพราะรถทัวร์นี่นั่งแล้วเวียนหัวมากกกก เหมือนจะตายจริงๆ ไปถึงสนามบินก็ต้องไปนั่งพักอยู่ที่ที่นั่งรอผู้โดยสารตั้งนานกว่าจะทำใจขึ้นลิฟท์ไปยังเทอร์มินัล 2 the Queen's Terminal ที่ซึ่งเราจะไปขึ้นเครื่องการบินไทยไปกรุงเทพฯ 
ประทับใจกับความกว้างใหญ่สะอาดสะอ้านของควีนส์ เทอร์มินัลมากเลย มีที่ให้นั่งเยอะแยะไม่ต้องแย่งกัน ไม่ต้องกลัวจะไม่ได้นั่ง และร้านอาหารก็มีให้เลือกตั้งแต่ ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น อินเดียน ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่าไม่ได้ทานอะไรเป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่เมื่อคืน (ตอนนั้นก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้วมั้ง) ก็เลยตัดสินใจทานอาหารญี่ปุ่น อร่อยหรือไม่ไม่รู้ เพียงแต่ว่าเมื่อซูชิคำแรกเข้าปากก็รู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสรรค์ มันรู้สึกดีจริงๆ หลังจากอิ่มแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้ชุ่มชื่นและไปนั่งพักหลับๆ ตื่นๆ รู้สึกดีขึ้น เพราะตอนแรกกลัวว้าขึ้นเครื่องบินจะเมาเครื่องบินแบบที่เมารถ ทั้งๆ ที่ปกติก็ไม่เมาเครื่องบินนะคะ แต่จากการที่เมารถมาอย่างทรมานทรกรรมก็อดหวาดๆ ไม่ได้ ก็เลยทานยาแก้ปวดไปหนึ่งเม็ด (เผื่อปวดหัว) และขึ้นเครื่องบินซึ่งก็สมกับคำโฆษณาว่า Snooth as silk ขนาดตอนเครื่องบินลงยังไม่กระเทือนเลย แถมตอนแรกคิดว่าจะใช้เวลาบินสิบสามชั่วโมง เนื่องจากมีลมช่วยก็ไปถึงกรุงเทพฯ เพียงแค่สิบชั่วโมงกว่าๆ อาหารบนเครื่องบินไม่ได้เรื่องแต่ไม่สนใจเพราะเมื่อถึงกรุงเทพฯ ก็กะว่าคงจะได้กินดีอยู่แล้ว



Comments